“ใจที่เร่าร้อนเป็นไฟ เท้าต้องก้าวเดินไป" (เทียบ ลก 24:13-35) ....สารวันแพร่ธรรม ปี 2023....

งานที่พ่อแม่ละเลยไม่ได้เป็นอันขาดงานที่พ่อแม่ละเลยไม่ได้เป็นอันขาด
        บทบาทของบุคคลสำคัญในพระคัมภีร์ที่ได้รับใช้พระเจ้าหรือเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์แห่งความรอดตั้งแต่อยู่ในวัยเยาวชนมีให้เราได้ศึกษาไม่ขาด ยกตัวอย่างเช่น “ดาเนียล” เป็นหนุ่มชาวอิสราเอล เป็นชายหนุ่มที่มีร่างกายสมบูรณ์ รูปร่างงาม เฉลียวฉลาด มีปรีชา เรียนรู้วิชาการต่างๆได้รวดเร็ว และรอบคอบในการตัดสิน ได้รับเลือกให้มาอยู่ในราชสำนักของกษัตริย์ต่างชาติ “โยเซฟ” ถูกพี่ ๆ ขายให้พ่อค้าชาวอียิปต์และต้องไปเป็นทาสอยู่ที่นั้น

เรารู้เรื่องของ “กษัตริย์ดาวิด” ที่เป็นแต่เพียงเด็กเลี้ยงแกะตัวน้อย แต่ได้อาจหาญต่อสู้กับศัตรูของชาติที่เข้มแข็งกว่าได้ และสุดท้ายก็ได้เป็นบุคคลสำคัญของชาวอิสราเอล เราได้เห็นความเอาใจใส่ของกษัตริย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ชาญฉลาดมากที่สุดคือกษัตริย์ซาโลมอนตรัสเตือนใจเยาวชนว่า “จงระลึกถึงพระผู้สร้างของท่านขณะที่ท่านยังเยาว์วัย ก่อนที่วันเลวร้ายจะมา  (ปัญญาจารย์ 12:1)

              เราได้เห็นแบบอย่างของผู้ที่เป็นบิดามักจะสอนบุตรของตนให้มีความปรีชาฉลาดในการดำรงตน  เช่น ตัวอย่างของดาวิดสอนซาโลมอน ดังนี้ “พ่อเคยเป็นลูกของบิดา...บิดาสอนพ่อ พูดว่า...จงแสวงหาทั้งปรีชาญาณและความเข้าใจให้ได้...แล้วปรีชาญาณจะเฝ้าดูแลลูก...ชีวิตของลูกจะยืนยาว…อย่าเข้าไปในวิถีทางของคนชั่วร้าย อย่าเดินในหนทางของคนอธรรม จงหลีกเลี่ยงอย่าเดินตามทางนั้น จงอยู่ห่างๆ และเดินผ่านไป…จงรักษาเท้าของลูกให้อยู่ห่างจากความชั่ว”(สุภาษิต 4:3-27)

            เราคุ้นเคยชื่อของ “ทีโมธี” ทีโมธีเป็นศิษย์ที่ติดตามเปาโล จนเปาโลเรียกว่าเป็นบุตรแห่งความเชื่อของท่าน เปาโลได้พูดถึงชีวิตแห่งความเชื่อของทิโมธีว่าได้รับการปลูกฝังมาจาก “คุณยายโลอิส” และ “คุณแม่ยูนิส”(เทียบ 2ทิโมธี 1:5)

             แท้จริงแล้ว หน้าที่การอบรมเลี้ยงดูลูกลำดับแรกเป็นของ “บิดาและมารดา” บิดาและมารดาจะต้องรับผิดชอบชีวิตด้าน “จิตวิญญาณ” ของลูกๆตามแบบอย่างของโยชูอาที่ได้พูดเตือนใจชาวอิสราเอลให้ยึดมั่นในพระเจ้าไม่หลงไปตามกระแสสังคมในสมัยนั้นว่า “ส่วนสำหรับครอบครัวของข้าพเจ้าและข้าพเจ้าเอง เราจะรับใช้พระยาห์เวห์”(โยชูอา 24:15) เมื่อย้อนไปถึงเหตุผลที่พระเจ้าทรงเลือกอับราฮัม พระคัมภีร์ได้บันทึกไว้ว่า “เราเลือกเขาไว้ให้สั่งสอนลูกหลาน และครอบครัวที่จะตามมาให้ปฏิบัติตามวิถีทางของพระยาห์เวห์ โดยทำแต่สิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรม เพื่อว่าพระยาห์เวห์จะประทานสิ่งที่ทรงสัญญาไว้แก่อับราฮัม”(ปฐมกาล 18:19)

            คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกในภาคชีวิตในพระคริสตเจ้าได้กำชับถึงหน้าที่ของบิดามารดาในการให้การอบรมเรื่องความเชื่อแก่บุตรหลายของตนว่า “ บิดามารดาได้รับหน้ารับผิดชอบและสิทธิพิเศษที่จะประกาศข่าวดีของพระเจ้าให้บุตรของตน จึงควรจะนำพวกเขาให้เข้าสู่ธรรมล้ำลึกแห่งความเชื่อตั้งแต่เด็ก บิดามารดา เป็นคนแรกที่ประกาศสอนความเชื่อแก่ลูกๆ ให้ลูกมีส่วนร่วมกับชีวิตของพระศาสนจักรตั้งแต่เยาว์วัย....” และ “บิดามารดาต้องเริ่มต้นแต่ลูกๆยังอ่อนวัยที่สุด...บิดามารดามีภารกิจที่จะสอนลูกๆให้สวดภาวนาและค้นพบกระแสเรียกของเขาในฐานะที่เป็นบุตรของพระเจ้า”(CCC 2225-2226)

              หน้าที่การให้การอบรมลูกนี้ “มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด จนว่าถ้าหากการอบรมของพ่อแม่ก็ยากที่จะหาการอบรมอื่นใดมาทดแทนได้”(เทียบ CCC 2221)

ผู้อํานวยการ PMS ประเทศไทย

คุณพ่อเปาโล ไตรรงค์  มุลตรี ผู้อํานวยการ สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม (PMS)ประเทศไทย
คุณพ่อเปาโล ไตรรงค์  มุลตรี
ผู้อํานวยการ
สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม
(PMS)ประเทศไทย


LINKS

www.ppoomm.v

http://www.catholicmission.org.au/http://www.missionsocieties.ca/www.pms-phil.orgwww.missio.org.mthttp://www.obrasmisionalespontificias.es/คณะธรรมทูตไทย

สถิติการเยี่ยมชม

14522427
Today
Yesterday
This Week
This Month
All days
322
426
1461
7449
14522427
Your IP: 3.91.19.28
2024-03-29 08:15