“ใจที่เร่าร้อนเป็นไฟ เท้าต้องก้าวเดินไป" (เทียบ ลก 24:13-35) ....สารวันแพร่ธรรม ปี 2023....

คำปราศรัยของสมณมนตรีกระทรวงการประกาศพระวรสารสู่ปวงชน
คำปราศรัยของสมณมนตรีกระทรวงการประกาศพระวรสารสู่ปวงชน

          โรม (Agenzia Fides) – "องค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นที่ได้ส่งพวกเราให้ออกไปทำงานธรรมทูตในธรรมล้ำลึกปัสกาขององค์พระบุตรของพระองค์ ไม่มีใครตอบรับงานธรรมทูตนี้เว้นแต่บุคคลด้วยอาศัยความเชื่อ ได้ค้นพบว่าตนเองได้รับการส่งออกไป ด้วยความเมตตารักที่ได้ช่วยตนเองให้รอดและได้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในของตนเอง การเอาชนะความแตกต่างในเขตแดนทางภูมิศาสตร์ที่พระศาสนจักรได้จัดส่งธรรมทูตไปและในดินแดนที่ต้อนรับธรรมทูตนั้นเรียกร้องให้เอาชนะความแตกต่างที่ยังไม่สมบูรณ์ระหว่างกิจการงานอภิบาลและงานธรรมทูต" นี้คือเรื่องที่พระคาร์ดินัล เฟอร์นันโด ฟิโลนี สมณมนตรีกระทรวงการประกาศพระวรสารสู่ปวงชนได้เน้นย้ำระหว่างการปราศรัยในที่ประชุมใหญ่ของสมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม (PMS) ในช่วงบ่ายของวันที่ 29 พฤษภาคม 2017 (การประชุมเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม ถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2017 ณ ศูนย์อบรมซาเลเซียน กรุงโรม ประเทศอิตาลี


        ท่านสมณมนตรีได้กล่าวย้ำว่า "ยังไม่มีชุมชนคริสตชนที่ก่อตั้งขึ้นอย่างแท้จริง ยังไม่มีพระศาสนจักรท้องถิ่นใดที่ก่อตั้งขึ้นอย่างสมบูรณ์ พระวรสารยังไม่เคยได้รับการประกาศอย่างบริบูรณ์ หัวใจของเราจะไม่มีวันได้กลับใจอย่างเต็มเปี่ยมและได้รับความรอดพ้น เว้นแต่ว่าในความบริบูรณ์แห่งการกลับคืนชีพ ดังนั้นงานธรรมทูตซึ่งเป็นหัวใจของความเชื่อเพราะว่ากระบวนความรักแห่งการไถ่กู้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงไม่มีวันจบสิ้น พระศาสนจักรทุกแห่งยังคงต้องการการฟื้นฟูอยู่เสมอ เพื่อทำให้หัวใจกระปรี้กระเปร่าขึ้นอีกครั้งหนึง เพราะลูกๆทุกคนยังมีความต้องการที่จะกลับใจปรับเปลี่ยนตนเองอยู่เสมอ ลูกแต่ละคนยังต้องการการไถ่ให้รอดพ้นจากบาป

      ในโอวาทของพระสันตะปาปาฟรังซิสที่ทรงมอบให้สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรมตอนหนึ่ง ดังนี้ " เพื่อการฟื้นฟูกลิ่นไอและความปรารถนาของบรรดานักบุญและมรณะสักขี เราจะต้องไม่ลดตนเองลงไปทำงานเหมือนกับเป็น เอ็นจีโอ (หน่วยงานที่ไม่ได้เป็นหน่วยงานรัฐ) ที่ทำหน้าที่ระดมเงินและให้ความช่วยเหลือด้วยการแจกจ่ายวัตถุสิ่งของและเงินสนับสนุน" พระคาร์ดินัลฟีโลนีได้เสนอข้อคิดนี้กับที่ประชุม

       ก่อนอื่นหมด "การเป็นประจักษ์พยานส่วนบุคคลยังคงมีความสำคัญยิ่งสำหรับงานธรรมทูต ถ้าความเชื่อที่อยู่ในตัวบุคคลเป็นความเชื่อที่เป็นการสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้า การดำเนินชีวิตด้วยการเป็นประจักษ์พยานของพระคริสต์เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับงานธรรมทูต...กิจกรรมการปลุกจิตสำนึกการเป็นธรรมทูตไม่ว่าจะเป็นความรู้ การพบปะกันและกระแสเรียกก็จะเป็นงานที่ง่ายขึ้น”

      การครบรอบ 100 ปีสมณสาสน์ Maximum Illud ของพระสันตะปาปาเบเนติกต์ที่ 15 ซึ่งประกาศในวันที่ 30 พฤศจิกายน 1919 จะเป็นโอกาสที่ไม่เพียงแต่แค่การระลึกถึงเอกสารนี้เท่านั้นแต่ "สำคัญมากสำหรับธรรมชาติของงานธรรมทูตของพระศาสนจักรทั้งหมด เหนือสิ่งอื่นใดเป็นการจุดประกายการเปลี่ยนแปลงความจริงของงานธรรมทุตทั้งหมด และให้แนวทางการอภิบาลที่ถูกต้องเพื่อให้สัตบุรุษคริสตชนและผู้อภิบาล มีชีวิตในสถานะของธรรมทูตอย่างถาวร" ดังนั้น เดือนตุลาคม 2019 จะต้องเป็น "เดือนสำหรับพระศาสนจักรทั้งหมด เป็นเดือนพิเศษที่เราจะอุทิศเพื่อการภาวนา การแสดงความรักเมตตา การเรียนคำสอน และการไตร่ตรองเรื่องงานธรรมทูต"

      ท่านสมณมนตรียังคงเน้นต่อไปว่า "สภาพแวดล้อมใหม่ของพระศาสนจักรและวัฒนธรรมเรียกร้องให้เราต้องคิดทบทวนใหม่ถึงวิธีการปฏิบัติและการทำงานของทั้งสี่สมณองค์กร เพื่อให้พระศาสนจักรจะได้วางตนเองในกระบวนการทำงานธรรมทูตได้อย่างถาวรมั่นคง เป็นความจำเป็นที่จะค้นหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อทำให้โครงการและความต้องการความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจได้รับการประเมินตามศักยภาพของตนเพื่อที่จะนำไปช่วยเหลือพระศาสนจักรต่างๆ ที่มีความต้องการและพระศาสนจักรที่เป็นผู้ให้อย่างถาวรในงานธรรมทูต"

      ในคำปราศรัยของท่าน พระคาร์ดินัล ฟีโลนี ได้เชิญชวนให้ทุกคนได้ช่วยเหลือกันและกัน "ขอให้พระศาสนจักรท้องถิ่นต่างๆ ในเขตแพร่ธรรมของเราที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในทางเศรษฐกิจได้ให้ส่วนของความช่วยเหลือหรือโครงการที่ตนควรได้รับให้แก่พระศาสนจักรอื่นๆ ที่มีความต้องการมากกว่า" ท่านยังได้กล่าวย้ำอีกว่า "จุดประสงค์ที่แท้จริงจะต้องเป็นการประกาศข่าวดีของพระเจ้าอยู่เสมอ" ดังนั้นท่านได้ให้คำแนะนำว่า "เพื่อให้เกิดการเจริญเติบโตในจิตตารมณ์ของการเป็นธรรมทูตภายในสมาชิกของพระศาสนจักร บรรดาผู้อำนวยการสมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม (PMS) สำนักงานเลขาธิการของทุกสมณองค์กร เราทุกคน และความห่วงกังวลเรื่องงานธรรมทูตของพระสันตะปาปา ผู้ทรงเป็นชุมภาบาลสากล ขอให้เราทุกคนได้ให้ความสนใจและเอาใจใส่พระศาสนจักรท้องถิ่นอื่นๆ ทั่วโลก ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือจากบรรดาคริสตชนทั่วโลก ทุกคนให้เพื่อว่าทุกคนจะได้รับอย่างทั่วถึง"

       พระคาร์ดินัลยังได้ให้คำแนะนำต่อไปว่า "ในขณะที่การทำงานของศูนย์ข้อมูลข่าวสารในยุคดิจิตัลและเทคโนโลยีของสมณองค์กรฯ (PMS) รวมถึงสำนักงานฟีเดส (Fides) นิตยสารออมนิสแตร์รา (Omnis Terra) และสื่ออื่นๆ จะต้องเพิ่มการให้บริการที่ผสมผสานให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น" ในส่วนของการปรับปรุงการทำงานของสมณองค์กรสหพันธ์ธรรมทูตของพระสงฆ์และนักบวช (Pontifical Mission Union) และศูนย์พัฒนาธรรมทูตสากล (International Center for Missionary Animation: CIAM) ในหน้าที่การทำงานของการให้บริการด้านการฝึกอบรมธรรมทูตให้กับพระศาสนจักรท้องถิ่นต่างๆ เรียกร้องให้บริการเพื่อสนองตอบความต้องการของพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างทั่วถึง" "การปรับปรุงตนเองโดยการรับฟังและอาศัยความร่วมมือจากพระศาสนจักรท้องถิ่นต่างๆ สมณองค์กรสหพันธ์ธรรมทูตของพระสงฆ์และนักบวช (Pontifical Mission Union) ในฐานะหัวใจของสมณองค์กร(PMS) จะต้องช่วยกระตุ้นให้สมณองค์กรอื่นๆได้ฟื้นฟูการทำงานให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น"  ท่านยังได้พูดถึงสมณองค์กรยุวธรรมทูตว่า "สมณองค์กรเพื่อเด็กๆ นี้ ควรที่จะค้นหาวิธีการเพื่อให้การฝึกอบรมในเรื่องที่เกี่ยวกับการพัฒนาเด็กๆ การเป็นคุณพ่อคุณแม่ คุณค่าและศักดิ์ศรีการเป็นมนุษย์ การให้ฝึกอบรมและโรงเรียน รวมถึงบรรดาเยาวชนโดยร่วมมือกับสมณองค์กรสหพันธ์ธรรมทูตของพระสงฆ์นักบวชและพระศาสนจักรท้องถิ่น" และเพื่อเป็นไปตามพระดำริของพระสันตะปาปาฟรังซิสที่ทรงห่วงกังวลเรื่องของการพิทักษ์เด็กๆ "เราจะต้องใส่ใจ จริงจังโดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้การฝึกอบรมคุณพ่อคุณแม่ ผู้ให้การอบรม พระสงฆ์ประจำวัด ฯลฯ" ( Agenzia Fides, 30/5/2017)

ผู้อํานวยการ PMS ประเทศไทย

คุณพ่อเปาโล ไตรรงค์  มุลตรี ผู้อํานวยการ สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม (PMS)ประเทศไทย
คุณพ่อเปาโล ไตรรงค์  มุลตรี
ผู้อํานวยการ
สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม
(PMS)ประเทศไทย


LINKS

www.ppoomm.v

http://www.catholicmission.org.au/http://www.missionsocieties.ca/www.pms-phil.orgwww.missio.org.mthttp://www.obrasmisionalespontificias.es/คณะธรรมทูตไทย

สถิติการเยี่ยมชม

14526987
Today
Yesterday
This Week
This Month
All days
98
171
593
3582
14526987
Your IP: 3.145.191.214
2024-04-16 11:23