“ใจที่เร่าร้อนเป็นไฟ เท้าต้องก้าวเดินไป" (เทียบ ลก 24:13-35) ....สารวันแพร่ธรรม ปี 2023....

บทที่ 6 เยาวชนผู้ประกาศข่าวดีบทที่ 6 เยาวชนผู้ประกาศข่าวดี

1.จุดประสงค์
      1. เพื่อให้สมาชิกบอกได้ว่าการประกาศข่าวดีคืออะไร
      2. เพื่อให้สมาชิกตระหนักถึงผลดีของการประกาศข่าวดี
      3. เพื่อให้สมาชิกเรียนรู้ชีวิตและคำสอนของพระเยซูเจ้าด้วยการอ่านพระคัมภีร์ประจำวัน

การสร้างบรรยากาศ จุดประสงค์ และการรายงานการประชุมและการเงิน
    1. สร้างบรรยากาศ ด้วยการร้องเพลงของสมณองค์กรยุวธรรมทูต ชุด เพื่อนช่วยเพื่อน 1 เพลง
    2. ภาวนาเริ่มการประชุม ฝึกให้สมาชิกภาวนาด้วยท่าทีที่ถูกต้องและภาวนาอย่างตั้งใจ เช่น เชิญชวนให้ก้มศีรษะ
    3. เกริ่นนำถึงจุดประสงค์ คือสิ่งที่เราจะเรียนรู้ในวันนี้  ดังนั้นในการประชุมแต่ละครั้ง ผู้นำควรชี้ให้สมาชิกเห็นประเด็นที่สำคัญ ให้เด็ก ๆ สามารถจดจำ และนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
    4. รายงานการประชุมและการเงิน จากการประชุมในครั้งที่ผ่านมา

2. ประสบการณ์        
1. ถามสมาชิกว่า ในพระคัมภีร์มีตอนใดบ้างที่กล่าวถึงเด็ก
2. ให้ผู้นำเสนอคำสอนโดยให้เด็ก ๆ ได้แสดงละคร เรื่องพระเยซูเจ้ากับเด็กเล็ก ๆ (มธ. 19:14) โดยผู้นำแบ่งบทบาทให้กับสมาชิกแต่ละคน และให้ซักซ้อมกับสมาชิกสัก 1 รอบ แล้วจึงค่อยดำเนินการแสดงจริง
ผู้แสดง      1. พระเยซูเจ้า   2. บรรดาศิษย์    3. เด็ก   4. ประชาชน
“ขณะนั้น มีผู้นำเด็กเล็ก ๆ มาให้พระองค์ทรงปกพระหัตถ์อวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่า คนเหล่านั้น  พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้”


3. คำสอนธรรมทูต  
  
กฤษฎีกาสมัชชาใหญ่ของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย คริสตศักราช 2015 มีความคาดหวังให้เยาวชนเป็นผู้ร่วมงานการประกาศข่าวดี ในข้อที่ 21 โดยเล็งเห็นว่าเยาวชนคือ “ผู้เปิดขอบฟ้าใหม่เพื่อออกไปประกาศข่าวดี” ดังนั้นพันธกิจของพระศาสนจักรจึงต้อง
1. เน้นการประกาศข่าวดีแก่เด็กและเยาวชน โดยอบรมพวกเขาให้เป็นผู้นำ  และมีวิิจารณญาณรอบคอบมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างรวดเร็วที่ส่งผลกระทบต่อศาสนา
2. ต้องให้เด็กและเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุดในชีวิตของพระศาสนจักร เสริมชีวิตชีวาแก่กลุ่มงานรับใช้ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้พวกเขาได้สัมผัส และมีส่วนริเริ่มงานธรรมทูตในสังฆมณฑลหรือในสถานที่อื่น ๆ
3. ช่วยให้บรรดาเยาวชนบรรลุวุฒิภาวะทางความเชื่อ พร้อมเป็น “ผู้จาริกประกาศความเชื่อ”มีความชื่นชมยินดีที่จะนำพระเยซูเจ้าไปตามท้องถนน ตามสี่แยกและในทุกมุมโลก เด็กและเยาวชน เป็นผู้เรียกร้องพระศาสนจักรให้ต้องตื่นตัวและมีความหวังเพิ่มขึ้น เพราะพวกเขาเป็นปัจจุบันและอนาคตของมนุษยชาติ เราต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างบูรณาการและต่อเนื่อง โดยให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างบ้าน วัด โรงเรียน ฯลฯ โดยเน้นการรับฟังเข้าใจ ให้โอกาสและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พวกเขา

4. พระคัมภีร์และการไตร่ตรอง
ให้สมาชิกไตร่ตรองละครพระคัมภีร์ จากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ. 19:13-14) เรื่องพระเยซูเจ้ากับเด็กเล็ก ๆ
    ขณะนั้นมีผู้นำเด็กเล็ก ๆ มาให้พระองค์ทรงปกพระหัตถ์อวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้”

คำถามเพื่อการไตร่ตรอง (อาจจะยากสักนิด ผู้นำต้องช่วยให้เด็กได้ฝึกไตร่ตรองด้วย)
      1) พระคัมภีร์ตอนนี้สรุปสาระสำคัญได้ว่าอย่างไร (มีคนพาเด็ก ๆ มาหาพระเยซูเจ้า แต่ศิษย์ห้าม     ไม่ยอมให้พวกเขาเข้าพบ แต่พระองค์ทรงอนุญาตให้พาเด็ก ๆ   มาพบเพราะพระองค์ทรงรักเด็ก ๆ)
      2)  เมื่อได้อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกอย่างไร (ภูมิใจ ดีใจที่พระเยซูเจ้าทรงรักเด็ก ๆ อยากกอดพระเยซูเจ้า)
      3) เมื่อได้อ่านเรื่องนี้แล้วได้รับประโยชน์อะไรบ้าง (รู้ว่าพระเยซูเจ้ารักเราทุกคน รักพระเยซูเจ้ามากขึ้น ภูมิใจที่ได้รู้จักพระเยซูเจ้า และจะบอกเล่าให้เพื่อนรู้ว่าพระเยซูเจ้ารักเรา)
      4) ถ้าไม่ได้อ่านเรื่องนี้จะมีผลเสียอย่างไรบ้าง (ไม่รู้ว่ามีคนรักเรา ใช้ชีวิตแบบไม่มีคุณค่าเพราะไม่มีใครสนใจเรา เราจึงไม่สนใจคนอื่น)
      5) เราแต่ละคนมีอะไรต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เป็นไปตามที่พระคัมภีร์สอนเราหรือไม่ อย่างไร(ให้เด็ก ๆ ได้พิจารณาตนเอง แล้วแบ่งปันคำตอบของตนต่อกลุ่มใหญ่ เช่น เป็นเด็กดีให้พระเยซูเจ้าดีใจ จะรักพระเยซูเจ้า และจะพาเพื่อนมารู้จักพระเยซูเจ้าให้มากขึ้น....)
      6) การเรียนรู้เรื่อง เยาวชนผู้ประกาศข่าวดี และการอ่านพระคัมภีร์ (มธ. 19:14) ทำให้เรารู้จักพระเจ้าของเรามากขึ้นอย่างไร (รู้ว่าพระเยซูเจ้ารักเราทุกคน เราจึงต้องรักพระองค์ให้มากขึ้นและต้องประกาศข่าวดีนี้ให้ทุกคนได้รับรู้และมารักพระเยซูเจ้าเช่นเดียวกับพวกเรา)

5. ชีวิตจิตธรรมทูต
ผู้นำ  นำการภาวนาสายประคำธรรมทูต โดยการสวดบทวันทามารีย์ 10 บท
1. เพื่อให้คริสตชนทุกคน เป็นต้นสมาชิกเองได้เป็นผู้ประกาศข่าวดีของพระเจ้าให้คนอื่นได้รู้จักพระเยซูเจ้า
2. ภาวนาตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปาเพื่องานแพร่ธรรม

6. ธรรมทูตที่เป็นหนึ่งเดียวกัน (ชีวิตกลุ่ม)
1.  ให้สมาชิกได้พักสักครู่
2.  รับประทานอาหารว่างร่วมกัน (โดยผู้นำอาจเตรียมขนม นมกล่อง ไว้เพื่อแจกสมาชิก)

7. ธรรมทูตรับใช้ (ปฏิบัติ)
     1) รายงานกิจการดีที่สมาชิกแต่ละคนได้ตั้งใจกระทำ จากการพบปะในครั้งที่ผ่านมา
     2) ให้สมาชิกประชุมกันว่าจะประกาศข่าวดีด้วยการกระทำ 1 อย่าง ที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่ได้เรียนรู้ไปและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของเขา (ให้เลขาจดบันทึกไว้เพื่อการรายงานในการพบปะครั้งต่อไป)
     3) ให้สมาชิกถวายเงินเล็กน้อยเพื่อนำไปช่วยเหลือเด็กที่มีความยากลำบากกว่าตนเอง (เตรียมกระปุกออมสินของกลุ่มไว้เพื่อใส่เงิน)
     4) นัดหมายการพบปะครั้งต่อไป

8. ภาวนาปิด
บทภาวนาวอนขอพระพรเพื่อเข้าใจ รัก และดำเนินชีวิต ตามกฤษฎีกาสมัชชาใหญ่ฯ ค.ศ. 2015
“ศิษย์พระคริสต์เจริญชีวิตประกาศข่าวดีใหม่”

::::: Download บทภาวนา :::::

LINKS

www.ppoomm.v

http://www.catholicmission.org.au/http://www.missionsocieties.ca/www.pms-phil.orgwww.missio.org.mthttp://www.obrasmisionalespontificias.es/คณะธรรมทูตไทย

สถิติการเยี่ยมชม

14522117
Today
Yesterday
This Week
This Month
All days
12
426
1151
7139
14522117
Your IP: 54.197.64.207
2024-03-29 00:31