“ใจที่เร่าร้อนเป็นไฟ เท้าต้องก้าวเดินไป" (เทียบ ลก 24:13-35) ....สารวันแพร่ธรรม ปี 2023....

สาระสำคัญของสารวันแพร่ธรรมสากล 2019 (ครั้งที่ 93)สาระสำคัญของสารวันแพร่ธรรมสากล 2019 (ครั้งที่ 93)

1. หัวข้อของสารวันแพร่ธรรมสากล 2019 และเดือนตุลาคม “เดือนพิเศษเพื่อการแพร่ธรรม”
      • พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงมอบสารฯ ในปีนี้ ภายใต้หัวข้อว่า “ศิษย์พระคริสต์ ศิษย์ธรรมทูต: พระศาสนจักรของพระศริสต์พันธกิจในโลก” ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ของการฉลองครบรอบ 350 มิสซังสยามของพระศาสนจักรคาทอลิกประเทศไทย ที่ต้องการให้คริสตชนคาทอลิกทุกคนที่ได้มาเป็น “ศิษย์พระคริสต์” โดยผ่านทาง “ศีลล้างบาป” (Baptised) ได้พัฒนาตนเองเป็น “ศิษย์ธรรมทูต” โดยการออกไป (Sent) ประกาศ และแสดงตนเป็นประจักษ์พยานถึงข่าวดีเรื่องพระเจ้าทรงรักเราให้ทุกคนได้สัมผัสรับรู้

2. เดือนตุลาคมปีนี้ ขยายจาก “วันอาทิตย์แพร่ธรรมสากล” เป็น “เดือนพิเศษเพื่อการแพร่ธรรม”
      • เนื่องจากวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคมของทุกปีจะเป็น “วันอาทิตย์แพร่ธรรมสากล” แล้ว ในปีนี้พระสันตะปาปาฟรังซิสยังทรงประกาศให้เดือนตุลาคม 2019 ทั้งเดือน ให้เป็น “เดือนพิเศษเพื่อการแพร่ธรรม” ทั้งนี้เพื่อเป็นการฉลองครบ 100 ปีสมณลิขิต “มาซิมุม อิลลุด” (ความสำคัญสูงสุดของงานธรรมทูต 1919) ของพระสันตะปาปาเบเนดิ๊กที่ 15 ซึ่งเป็นสมณลิขิต “ต้นแบบ” ที่เน้นถึงความสำคัญของงานการแพร่ธรรมสู่ปวงชนหรือไปยังบุคคลทุกคนเป็นต้นสำหรับบุคคลที่ยังไม่รู้จักพระเยซูเจ้า

3. จุดเน้นของสารวันแพร่ธรรมในปีนี้
      • เนื้อจากสาระสำคัญของสมณลิขิต “มาซิมุม อิลลุด” (ความสำคัญสูงสุดของงานธรรมทูต 1919) ซึ่งพระสันตะปาปาทรงไตร่ตรอง ทำให้ท่านจึงเน้นถึงความสำคัญของการฟื้นฟุการอุทิศตนในงานแพร่ธรรมและการนำความรอดพ้นจากบาปไปมอบให้ทุกคน โดยทรงเขียนไว้ว่า "ความสำคัญแห่งการฟื้นฟูการอุทิศตนด้านธรรมทูตของพระศาสนจักรกระตุ้นงานเทศน์สอนและนำความรอดพ้นของพระเยซูคริสตเจ้าผู้ทรงสิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนชีพมาสู่โลก”

4. ประเด็นสำคัญที่พระองค์ทรงปรารถนาให้เราได้ตระหนัก
      • สองประเด็นสำคัญที่เราคาทอลิกทุกคนควรสดับฟังและพิจารณาอย่างลึกซึ้งจากสารของพระสันตปาปาในเดือนพิเศษแห่งการประกาศข่าวดีนี้ คือ (1) เราคาทอลิกทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการเผยแพร่หรือการประกาศข่าวดีของพระเจ้าสู่ปวงชน และ (2) การไถ่บาปสู่ความรอดพ้นจากพระเยซูเจ้าเป็นเรื่องสากลสำหรับทุกคนเพราะมนุษย์ทุกคนต่างเป็นบุตรของพระเจ้า และเป็นพี่เป็นน้องกัน ซึ่งหมายความว่าเราต้องปฏิเสธ หรือ ถึงเวลา “สิ้นสุดทุกรูปแบบของชาตินิยมและเผ่าพันธุ์นิยม หรือการเทศนาพระวรสารพร้อมกับผลประโยชน์ของอำนาจการล่าเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจและทางการทหาร

5. ความหมายของศิษย์พระคริสต์ จากการรับศีลล้างบาป
      • การเป็น “ศิษย์พระคริสต์” ที่เป็นผลจาก “ศีลล้างบาป” และการเป็น “สมาชิกของพระศาสนจักร” จะต้องเดินเคียงคู่กันและเป็นเอกสิทธิเพื่อการได้รับความรอดพ้นจากบาป และยังมีพันธกิจที่จะต้องเสริมสร้างสันติภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกันในโลก "ปราศจากพระเจ้าแห่งพระเยซูคริสต์ ความแตกต่างทุกประการถูกลดมาสู่การขู่เข็ญทำให้ไม่มีทางยอมรับกันฉันพี่น้องแท้ และไม่มีทางเกิดเอกภาพภายในมนุษย์ชาติ”

6. ศิษย์ธรรมทูต คือ การถูกส่งออกไปแพร่ธรรมหรือประกาศข่าวดี
       • พันธกิจการแพร่ธรรมหรือการประกาศข่าวดีเป็นการมอบของขวัญของศีลล้างบาปให้ผู้อื่นนี้ “เป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์ของเราในฐานะคริสตชน เราต้องรับผิดชอบเพื่อทุกคนทั้งชายและหญิงสามารถตระหนักถึงกระแสเรียกให้เป็นบุตรบุญธรรมของพระบิดา เพื่อตระหนักถึงศักดิ์ศรีส่วนบุคคลและเพื่อชื่นชมคุณค่าภายในของทุกชีวิตมนุษย์ ตั้งแต่การปฏิสนธิจนถึงความตายตามธรรมชาติ”

7. ต้องละทิ้งความคิดแคบ ๆ เดิม ๆ โดยมองให้กว้างขึ้น
       • ในฐานะสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้า พระสันตะปาปาทรงเรียกร้องให้เราคาทอลิกละทิ้ง “ความคิดแคบๆ เรื่องสมาชิกประเทศ และกลุ่มชาติพันธุ์ของตน” และเปิดวัฒนธรรมและชุมชนสู่ความรอดพ้นใหม่ของพระเยซูคริสตเจ้าเรียกร้องให้ละทิ้งการฝังตัวทางชาติพันธุ์ และพระศาสนจักรเกินควรไว้ข้างหลัง” และให้พร้อมที่จะก้าวออกไปจากสภาพความมั่งคงปลอดภัยของตนเองเพื่อแบ่งปันความเชื่อสู่ผู้อื่น

8. ประกาศข่าวดีด้วยความเคารพ
       • ถ้อยคำที่ผลักดันเราได้ออกไปประกาศข่าวดีด้วยความเคารพ คือ “ความเชื่อที่เราได้รับในศีลล้างบาป ความสัมพันธ์ฉันลูกกับพระเจ้ามิใช่เป็นเรื่องส่วนตัวธรรมดาๆ… ชีวิตแบบพระเจ้านี้มิใช่เป็นผลผลิตเพื่อจำหน่าย เราไม่บังคับให้ใครมารับศีลล้างบาป แต่เป็นสมบัติเพื่อแบ่งปัน บอกต่อ และประกาศ นี่เป็นความหมายของพันธกิจ เราได้รับของขวัญนี้ฟรี เราจึงแบ่งปันฟรี ๆ โดยมิได้ตัดใครออกไป พระเจ้าปรารถนาให้ทุกคนรอดพ้น”

9. การแพร่ธรรม หรือการประกาศข่าวดี เหมือนคนตกหลุมรักที่ไม่สามารถอยู่เฉย ๆ ได้
       • เราคาทอลิกควรรู้สึกกระตือรือร้นที่จะแบ่งปันพระพรแห่งความเชื่อแก่ผู้อื่น ตามที่พระสันตะปาปาทรงกล่าวว่า “คนที่ตกหลุมรักไม่สามารถอยู่เฉย ๆ พวกเขาต้องถูกดึงออกจากตนเอง เขาถูกดึงดูดและเขาก็ดึงดูดผู้อื่นกลับ เขามอบตัวเองให้ผู้อื่น และสร้างสัมพันธภาพที่เป็นการมอบชีวิต ตราบใดที่เราเข้าใจความรักของพระเจ้า ไม่มีผู้ใดไร้ประโยชน์ หรือ ขาดความสำคัญ”

10. ขอบคุณและให้กำลังใจ สมณองค์สนับสนุนงานแพร่ธรรม (PMS)

       • ในตอนท้ายของสารนี้พระสันตะปาปาได้แสดงความชื่นชม “สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม” (PMS) ในการช่วยดำเนินงานปลุกจิตสำนึกและสนับสนุนงานแพร่ธรรมหรือการประกาศข่าวดีของพระศาสนจักร

11. แนวทางในการเฉลิมฉลองเดือนตุลาคม 2019 เดือนพิเศษเพื่อการแพร่ธรรม
       • พระคาร์ดินันล์ฟีโลนี สมณมนตรีกระทรวงการประกาศข่าวดีสู่ปวงชนได้ให้คำแนะนำสำหรับการปฏิบัติในเดือนพิเศษนี้โดยแบ่งกิจกรรมของเป็นสี่มิติดังนี้
1) การสร้างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเยซูคริสต์ผู้ทรงพระชนม์อยู่ในพระศาสนจักร (โดยการสวดภาวนา สวดสายประคำธรรมทูต ร่วมพิธีกรรม เข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจ.....)
2) ศึกษาประจักษ์พยานชีวิตของนักบุญธรรมทูตทั่วโลก (โดยการแสวงบุญ ไตร่ตรองประวัตินักบุญธรรมทูต .....)
3) การฝึกอบรมธรรมทูตหรือผู้ประกาศข่าวดีสู่ปวงชน (โดยเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อเป็นผู้ประกาศข่าวดีของพระเจ้า เข้ารับการศึกษาคำสอน หรือเอกสารของพระศาสนจักร ศึกษาสมณลิขิตต่างๆ)
4) การทำกิจเมตตา (โดยการออกไปนำความรัก การช่วยเหลือคนที่มีความลำบากและต้องการความช่วยเหลือทั้งฝ่ายร่างกายและจิตใจ)

        การทำกิจกรรมทั้งสี่มิตินี้จะช่วยทำให้เดือนพิเศษแห่งการแพร่ธรรมนี้เป็นโอกาสทองเพื่อให้เราได้ตรวจสอบรากฐานแห่งความเชื่อ ชีวิตธรรมทูต และมีส่วนร่วมในงานแพร่ธรรมของวัดและสังฆมณฑลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดย คุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ
ผู้อำนวยการสมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม (PMS) ประเทศไทย

LINKS

www.ppoomm.v

http://www.catholicmission.org.au/http://www.missionsocieties.ca/www.pms-phil.orgwww.missio.org.mthttp://www.obrasmisionalespontificias.es/คณะธรรมทูตไทย

สถิติการเยี่ยมชม

14522036
Today
Yesterday
This Week
This Month
All days
357
180
1070
7058
14522036
Your IP: 34.228.168.200
2024-03-28 21:44