“ใจที่เร่าร้อนเป็นไฟ เท้าต้องก้าวเดินไป" (เทียบ ลก 24:13-35) ....สารวันแพร่ธรรม ปี 2023....

สัมมนาผู้ร่วมงานประกาศข่าวดี ระดับชาติ ครั้งที่ 1สัมมนาผู้ร่วมงานประกาศข่าวดี ระดับชาติ ครั้งที่ 1
โอกาสฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม
เรื่อง การประกาศข่าวดีในพระศาสนจักรไทย
วันที่ 5-6 ตุลาคม 2019 ห้องประชุม ยวง นิตโย บ้านผู้หว่าน สามพราน


    
        สภาพระสังฆราชฯ โดย คณะกรรมาธิการฝ่ายธรรมทูตและการศึกษาคาทอลิก ได้จัดสัมมนาผู้ร่วมงานประกาศข่าวดี เรื่อง การประกาศข่าวดีในพระศาสนจักรไทย เมื่อวันที่ 5-6 ตุลาคม 2019 ห้องประชุม ยวง นิตโย บ้านผู้หว่าน สามพราน มีผู้เข้าร่วมสัมมนา 120 ท่าน ประกอบด้วย พระสังฆราช 2 ท่าน พระสงฆ์ นักบวช และฆราวาสผู้ร่วมงานประกาศข่าวดีจาก 10 สังฆมณฑล จำนวน 100 ท่าน และวิทยากร 18 ท่าน

จุดประสงค์ของการจัดสัมมนาในครั้งนี้ มี 2 ประการ คือ
     1. เสริมสร้างแรงบันดาลใจและสืบสานงานจากบรรดาธรรมทูตที่ได้ประกาศความเชื่อถึงพระเจ้าให้กับปวงชนชาวไทยตลอด 350 ปีที่ผ่านมา
     2. เพื่อให้ผู้ที่ขับเคลื่อนงานประกาศข่าวดีสู่ปวงชนได้มาพบปะกัน​ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมสร้างแรงบันดาลใจ สร้างเครือข่ายในการทำงาน และหาแนวทางในการทำงานประกาศข่าวดีที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละสังฆมณฑล

     เริ่มต้นการสัมมนาด้วยวจนพิธีกรรมเปิด โดย บาดหลวงสมเกียรติ บุญอนันตบุตร และกล่าวต้อนรับและชี้แจงวัตถุประสงค์ โดย บาดหลวงวัชศิลป์ กฤษเจริญ

     ในช่วงแรกของการสัมมนา บาดหลวงวัชศิลป์ กฤษเจริญ เป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับบทเรียน 10 ประการจากสมณลิขิต Maximum Illud พันธกิจที่ยิ่งใหญ่ของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 15 ดังนี้ คือ
 1. สงครามคือการทำลายตัวเองของการประกาศข่าวดี
 2. การทำงานแบบต่างคนต่างทำทำให้พลังการประกาศข่าวดีลดน้อยลง
 3. ยึดพระบัญชาของพระเยซูที่ให้เราออกไปประกาศข่าวดีเป็นหลัก
 4. ดูแบบอย่างความร้อนรนและการอุทิศตนของบรรดามรณะสักขีและนักบุญธรรมทูต
 5. คน ๆ เดียวก็ทำให้คนรู้จักพระเยซูเจ้าได้จำนวนมาก (นักบุญฟรังซิสเซเวียร์)
 6. ทำงานเพื่อพระเจ้ามิใช่ทำเพื่อผลประโยชน์ทางโลก
 7. ต้องมีชีวิตฝ่ายจิตที่เข้มแข็ง- คนชื่นชมคนดีมากกว่าคนเก่ง
 8. ฆราวาสมีความสำคัญมาก
 9. ต้องมีหน่วยงานที่รับผิดชอบและร่วมมือกัน
 10. พระแม่มารีย์เป็นดวงดาราแห่งการประกาศข่าวดี

     ในช่วงที่สองของการสัมมนา บาดหลวงธีรพล กอบวิทยา เป็นวิทยากรให้ความรู้ในเรื่อง บทเรียนจากประวัติศาสตร์ 350 ปี มิสซังสยาม

     และในช่วงที่สาม ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการสัมมนาในวันแรกนี้ เป็นการแบ่งปันการประกาศข่าวดีในบริบทต่าง ๆ ดังนี้

 -การประกาศข่าวดีในสลัมกับคนชายขอบสังคม
 โดย บาดหลวงอเล็กซานโดร ไบร์

 -การประกาศข่าวดีด้วยการส่งเสริมชีวิตครอบครัว
 โดย คุณสายชล  ศีติสาร และ คุณพจนา  ศีติสาร

 -การประกาศข่าวดีกับพี่น้องต่างความเชื่อ
 โดย บาดหลวงสิทธิโชค แสวงกาญจน์   

- การประกาศข่าวดีในสถานที่ทำงาน
 โดย คุณนิรมล  สุขวัฒนางกูร

 -การประกาศข่าวดีด้วยการเยี่ยมเยียนผู้ป่วย
 โดย คุณเมธา เหลืองรุ่งนภา

 -การประกาศข่าวดีท่ามกลางคนยากจน
 โดย คุณนันทพิมพ์ กิจนิจชีวะ

 -การประกาศข่าวดีกับผู้พิการทางการได้ยิน
 โดย คุณณรงค์  ถนอมเล็ก

 -การประกาศข่าวดีกับคนพิการซ้ำซ้อน
 โดย คุณมโนรัตน์  เติมนาค

 -การประกาศข่าวดีกับผู้ถูกจองจำ
 โดย ซิสเตอร์ขวัญเรียม เพียรรักษา  

 -การประกาศข่าวดีกับบุคคลระดับผู้นำ
 โดย คุณศรินทร เมธีวัชรานนท์

 -การประกาศข่าวดีในโรงเรียน
 โดย คุณกมลา สุริยพงศ์ประไพ

-การประกาศข่าวดีกับเด็กและเยาวชน
 โดย คุณจตุพล  แก้วมีศรี

 -การประกาศข่าวดีกับผู้ใหญ่
 โดย คุณกฤติยา อุตสาหะ

 -การประกาศข่าวดีกับกลุ่มชาติพันธ์ุ
 โดย เจ้าหน้าที่ของสังฆมณฑลเชียงใหม่

 -การประกาศข่าวดีด้วยการใช้เครื่องมือสื่อสารมวลชน
 โดย บาดหลวงอนุชา  ไชยเดช  

     การสัมมนาในวันที่ 6 ตุลาคม 2019 เริ่มต้นจากการแบ่งปันพระวาจาและอาหารเช้า หลังจากนั้น ในช่วงแรกเป็นการประชุมกลุ่มของแตะละสังฆมณฑล หาแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกับเขตปกครองของแต่ละสังฆมณฑล และในช่วงที่สองเป็นการนำเสนอแนวคิดเรื่องการประกาศข่าวดีของแต่ละสังฆมณฑลและปิดการสัมมนาด้วยพิธีบูชาขอบพระคุณ โดย พระสังฆราชยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ประธานกรรมธิการฝ่ายธรรมทูตและการศึกษาคาทอลิก

      และในโอกาสนี้ บาดหลวงวัชศิลป์ กฤษเจริญ ผู้อำนวยการสมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรมประเทศไทย ได้ขอบคุณผู้อำนวยการ PMS และผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายธรรมทูตทุกท่าน ที่ได้มาร่วมสัมมนาผู้ร่วมงานประกาศข่าวดีในครั้งนี้ และได้กล่าวสรุปว่า การแบ่งปันการประกาศข่าวดีในบริบทต่าง ๆ (Best practice) ที่ได้นำเสนอแสดงให้เห็นว่างานประกาศข่าวดีทำได้ในทุกบริบทของชีวิต คน ๆ เดียวสามารถประกาศข่าวดีแห่งความรักของพระเจ้าโดยนำความรักไปมอบให้บุคคลเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนระดับสังฆมณฑล หน่วยงาน องค์กร มีส่วนอย่างมากในการวางนโยบาย ดำเนินการ สนับสนุน ประสานงาน ให้ทุกกิจการของพระศาสนจักรเป็นการประกาศข่าวดี

     สิ่งที่สำคัญ การแบ่งปันการประกาศข่าวดีในแต่ละบริบทที่ผู้ประกาศข่าวดีแต่ละคนนำเสนอนั้น เมื่อได้รับฟังแล้ว ขอให้แต่สังฆมณฑล นำไปต่อยอดหรือทำให้แพร่ขยายต่อไป เช่น การเยี่ยมเยือนผู้ป่วย การประกาศในสถานที่ทำงาน การประกาศข่าวดีกับ คนพิการประเภทต่าง ๆ การประกาศข่าวดีในเรือนจำ การประกาศข่าวดีกับเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ และการใช้สื่อต่าง ๆ  ฯลฯ ถ้ามีแล้ว ขอให้ทำให้ดียิ่งขึ้น ถ้ายังไม่มีขอให้นำไปเริ่มทำในแต่ละสังฆมณฑล ซึ่งมีประโยคที่มักได้ยินบ่อย ๆ คือ เรารู้แล้ว เราทำแล้ว เรามีแล้ว ซึ่งนับว่าดี ก็ขอให้ริเริ่มทำในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อเป็น Best practice ของแต่ละสังฆมณฑล เพื่อให้คริสตชนแต่ละคนเป็นศิษย์ธรรมทูต เป็นเชื้อแป้งให้คนอื่นต่อไป



LINKS

www.ppoomm.v

http://www.catholicmission.org.au/http://www.missionsocieties.ca/www.pms-phil.orgwww.missio.org.mthttp://www.obrasmisionalespontificias.es/คณะธรรมทูตไทย

สถิติการเยี่ยมชม

14522282
Today
Yesterday
This Week
This Month
All days
177
426
1316
7304
14522282
Your IP: 54.152.5.73
2024-03-29 04:50