"จงไปและเชิญทุกคนมางานเลี้ยง" (เทียบ มธ 22:9) ....สารวันแพร่ธรรม ปี 2024....

สัมมนาผู้ร่วมงานประกาศข่าวดี ระดับชาติ ครั้งที่ 1สัมมนาผู้ร่วมงานประกาศข่าวดี ระดับชาติ ครั้งที่ 1
โอกาสฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม
เรื่อง การประกาศข่าวดีในพระศาสนจักรไทย
วันที่ 5-6 ตุลาคม 2019 ห้องประชุม ยวง นิตโย บ้านผู้หว่าน สามพราน


    
        สภาพระสังฆราชฯ โดย คณะกรรมาธิการฝ่ายธรรมทูตและการศึกษาคาทอลิก ได้จัดสัมมนาผู้ร่วมงานประกาศข่าวดี เรื่อง การประกาศข่าวดีในพระศาสนจักรไทย เมื่อวันที่ 5-6 ตุลาคม 2019 ห้องประชุม ยวง นิตโย บ้านผู้หว่าน สามพราน มีผู้เข้าร่วมสัมมนา 120 ท่าน ประกอบด้วย พระสังฆราช 2 ท่าน พระสงฆ์ นักบวช และฆราวาสผู้ร่วมงานประกาศข่าวดีจาก 10 สังฆมณฑล จำนวน 100 ท่าน และวิทยากร 18 ท่าน

จุดประสงค์ของการจัดสัมมนาในครั้งนี้ มี 2 ประการ คือ
     1. เสริมสร้างแรงบันดาลใจและสืบสานงานจากบรรดาธรรมทูตที่ได้ประกาศความเชื่อถึงพระเจ้าให้กับปวงชนชาวไทยตลอด 350 ปีที่ผ่านมา
     2. เพื่อให้ผู้ที่ขับเคลื่อนงานประกาศข่าวดีสู่ปวงชนได้มาพบปะกัน​ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมสร้างแรงบันดาลใจ สร้างเครือข่ายในการทำงาน และหาแนวทางในการทำงานประกาศข่าวดีที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละสังฆมณฑล

     เริ่มต้นการสัมมนาด้วยวจนพิธีกรรมเปิด โดย บาดหลวงสมเกียรติ บุญอนันตบุตร และกล่าวต้อนรับและชี้แจงวัตถุประสงค์ โดย บาดหลวงวัชศิลป์ กฤษเจริญ

     ในช่วงแรกของการสัมมนา บาดหลวงวัชศิลป์ กฤษเจริญ เป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับบทเรียน 10 ประการจากสมณลิขิต Maximum Illud พันธกิจที่ยิ่งใหญ่ของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 15 ดังนี้ คือ
 1. สงครามคือการทำลายตัวเองของการประกาศข่าวดี
 2. การทำงานแบบต่างคนต่างทำทำให้พลังการประกาศข่าวดีลดน้อยลง
 3. ยึดพระบัญชาของพระเยซูที่ให้เราออกไปประกาศข่าวดีเป็นหลัก
 4. ดูแบบอย่างความร้อนรนและการอุทิศตนของบรรดามรณะสักขีและนักบุญธรรมทูต
 5. คน ๆ เดียวก็ทำให้คนรู้จักพระเยซูเจ้าได้จำนวนมาก (นักบุญฟรังซิสเซเวียร์)
 6. ทำงานเพื่อพระเจ้ามิใช่ทำเพื่อผลประโยชน์ทางโลก
 7. ต้องมีชีวิตฝ่ายจิตที่เข้มแข็ง- คนชื่นชมคนดีมากกว่าคนเก่ง
 8. ฆราวาสมีความสำคัญมาก
 9. ต้องมีหน่วยงานที่รับผิดชอบและร่วมมือกัน
 10. พระแม่มารีย์เป็นดวงดาราแห่งการประกาศข่าวดี

     ในช่วงที่สองของการสัมมนา บาดหลวงธีรพล กอบวิทยา เป็นวิทยากรให้ความรู้ในเรื่อง บทเรียนจากประวัติศาสตร์ 350 ปี มิสซังสยาม

     และในช่วงที่สาม ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการสัมมนาในวันแรกนี้ เป็นการแบ่งปันการประกาศข่าวดีในบริบทต่าง ๆ ดังนี้

 -การประกาศข่าวดีในสลัมกับคนชายขอบสังคม
 โดย บาดหลวงอเล็กซานโดร ไบร์

 -การประกาศข่าวดีด้วยการส่งเสริมชีวิตครอบครัว
 โดย คุณสายชล  ศีติสาร และ คุณพจนา  ศีติสาร

 -การประกาศข่าวดีกับพี่น้องต่างความเชื่อ
 โดย บาดหลวงสิทธิโชค แสวงกาญจน์   

- การประกาศข่าวดีในสถานที่ทำงาน
 โดย คุณนิรมล  สุขวัฒนางกูร

 -การประกาศข่าวดีด้วยการเยี่ยมเยียนผู้ป่วย
 โดย คุณเมธา เหลืองรุ่งนภา

 -การประกาศข่าวดีท่ามกลางคนยากจน
 โดย คุณนันทพิมพ์ กิจนิจชีวะ

 -การประกาศข่าวดีกับผู้พิการทางการได้ยิน
 โดย คุณณรงค์  ถนอมเล็ก

 -การประกาศข่าวดีกับคนพิการซ้ำซ้อน
 โดย คุณมโนรัตน์  เติมนาค

 -การประกาศข่าวดีกับผู้ถูกจองจำ
 โดย ซิสเตอร์ขวัญเรียม เพียรรักษา  

 -การประกาศข่าวดีกับบุคคลระดับผู้นำ
 โดย คุณศรินทร เมธีวัชรานนท์

 -การประกาศข่าวดีในโรงเรียน
 โดย คุณกมลา สุริยพงศ์ประไพ

-การประกาศข่าวดีกับเด็กและเยาวชน
 โดย คุณจตุพล  แก้วมีศรี

 -การประกาศข่าวดีกับผู้ใหญ่
 โดย คุณกฤติยา อุตสาหะ

 -การประกาศข่าวดีกับกลุ่มชาติพันธ์ุ
 โดย เจ้าหน้าที่ของสังฆมณฑลเชียงใหม่

 -การประกาศข่าวดีด้วยการใช้เครื่องมือสื่อสารมวลชน
 โดย บาดหลวงอนุชา  ไชยเดช  

     การสัมมนาในวันที่ 6 ตุลาคม 2019 เริ่มต้นจากการแบ่งปันพระวาจาและอาหารเช้า หลังจากนั้น ในช่วงแรกเป็นการประชุมกลุ่มของแตะละสังฆมณฑล หาแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกับเขตปกครองของแต่ละสังฆมณฑล และในช่วงที่สองเป็นการนำเสนอแนวคิดเรื่องการประกาศข่าวดีของแต่ละสังฆมณฑลและปิดการสัมมนาด้วยพิธีบูชาขอบพระคุณ โดย พระสังฆราชยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ประธานกรรมธิการฝ่ายธรรมทูตและการศึกษาคาทอลิก

      และในโอกาสนี้ บาดหลวงวัชศิลป์ กฤษเจริญ ผู้อำนวยการสมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรมประเทศไทย ได้ขอบคุณผู้อำนวยการ PMS และผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายธรรมทูตทุกท่าน ที่ได้มาร่วมสัมมนาผู้ร่วมงานประกาศข่าวดีในครั้งนี้ และได้กล่าวสรุปว่า การแบ่งปันการประกาศข่าวดีในบริบทต่าง ๆ (Best practice) ที่ได้นำเสนอแสดงให้เห็นว่างานประกาศข่าวดีทำได้ในทุกบริบทของชีวิต คน ๆ เดียวสามารถประกาศข่าวดีแห่งความรักของพระเจ้าโดยนำความรักไปมอบให้บุคคลเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนระดับสังฆมณฑล หน่วยงาน องค์กร มีส่วนอย่างมากในการวางนโยบาย ดำเนินการ สนับสนุน ประสานงาน ให้ทุกกิจการของพระศาสนจักรเป็นการประกาศข่าวดี

     สิ่งที่สำคัญ การแบ่งปันการประกาศข่าวดีในแต่ละบริบทที่ผู้ประกาศข่าวดีแต่ละคนนำเสนอนั้น เมื่อได้รับฟังแล้ว ขอให้แต่สังฆมณฑล นำไปต่อยอดหรือทำให้แพร่ขยายต่อไป เช่น การเยี่ยมเยือนผู้ป่วย การประกาศในสถานที่ทำงาน การประกาศข่าวดีกับ คนพิการประเภทต่าง ๆ การประกาศข่าวดีในเรือนจำ การประกาศข่าวดีกับเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ และการใช้สื่อต่าง ๆ  ฯลฯ ถ้ามีแล้ว ขอให้ทำให้ดียิ่งขึ้น ถ้ายังไม่มีขอให้นำไปเริ่มทำในแต่ละสังฆมณฑล ซึ่งมีประโยคที่มักได้ยินบ่อย ๆ คือ เรารู้แล้ว เราทำแล้ว เรามีแล้ว ซึ่งนับว่าดี ก็ขอให้ริเริ่มทำในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อเป็น Best practice ของแต่ละสังฆมณฑล เพื่อให้คริสตชนแต่ละคนเป็นศิษย์ธรรมทูต เป็นเชื้อแป้งให้คนอื่นต่อไป



ผู้อํานวยการ PMS ประเทศไทย

บาทหลวงเปโตร ปิยะชาติ มะกรครรภ์ ผู้อำนวยการสมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม (PMS) ประเทศไทยบาทหลวงเปโตร ปิยะชาติ มะกรครรภ์
ผู้อํานวยการ
สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม
(PMS)ประเทศไทย


คู่มืออบรมยุวธรรมทูต ปี 2025

คู่มือยุวธรรมทูตประจําปี 2025 หัวข้อ “ยุวธรรมทูต ผู้หว่านแห่งความหวัง”

LINKS

www.ppoomm.v

http://www.catholicmission.org.au/http://www.missionsocieties.ca/www.pms-phil.orgwww.missio.org.mthttp://www.obrasmisionalespontificias.es/คณะธรรมทูตไทย

สถิติการเยี่ยมชม

14689264
Today
Yesterday
This Week
This Month
All days
287
412
1110
287
14689264
Your IP: 216.73.216.244
2025-07-01 10:29