ชุมนุมยุวธรรมทูตครั้งที่ 1
           กรุงเทพมหานคร : วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2010 คุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร
ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายงานธรรมทูตของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯได้จัดชุมนุมยุวธรรมทูตขึ้น
ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช
เป็นประธานในพิธี

          งานชุมนุมยุวธรรมทูตในครั้งนี้เริ่มต้นด้วยพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณโดย ฯพณฯ ฟรังซิสเซเวียร์ เกียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ได้เทศนาถึงความสำคัญของการเป็นธรรมทูตและความยากลำบากในการทำงาน แต่ธรรมทูตจะต้องไม่ย่อท้อ โดยให้ยึดแบบอย่างของพระเยซูเจ้าไว้ พระคุณเจ้าได้ยกตัวอย่างการเป็นธรรมทูตของเด็กวัย 11 ขวบที่อาสาไปแจกแผ่นพับพระคัมภีร์ตามหมู่บ้าน จากการเดินไปเคาะประตูเพื่อแจกพระคัมภีร์นี้ เขาสามารถช่วยให้หญิงชราคนหนึ่งที่คิดจะฆ่าตัวตายได้เปลี่ยนใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแม้ว่าจะมีความยากลำบากในชีวิต

            หลังจากพิธีมิสซาฯแล้วบรรดายุวธรรมทูตได้ร่วมชุมนุมกันที่บริเวณโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา ที่นี้ได้มีพิธีเปิดการชุมนุมโดย คุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ได้กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์ของการจัดงานให้กับพระคุณเจ้าที่สมาชิกทุกคนที่มาร่วมชุมนุมกันซึ่งในครั้งนี้ซึ่งมีเด็กๆยุวธรรมทูตจากโรงเรียนต่างๆรวมทั้งสิ้น 350 คน และคณะครู 50 คน ในโอกาสนี้คุณพ่อวีรชัย ศรีประมงค์ ธรรมทูตไทยที่ทำงานในประเทศกัมพูชา ได้แบ่งปันงานธรรมทูตกับเด็กชาวเขมรอีกด้วย

            จากนั้นได้มีการแบ่งกลุ่มเด็กๆเพื่อเข้าฐานความรู้เรื่องยุวธรรมทูต 3 ฐาน คือ ฐานที่ 1 เป็นประวัติยุวธรรมทูตซึ่งนำเสนอโดย บรรดาผู้ฝึกหัดฯจากคณะพระหฤทัยฯแห่งกรุงเทพฯ ฐานที่ 2 เป็นความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพระคัมภีร์ โดยศูนย์คำสอนอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ และฐานที่ 3 คือ ประวัตินักบุญธรรมทูตและวิธีการประกาศข่าวดีของยุวธรรม โดยมาเซอร์จากคณะเซนต์ปอลเดอร์ชาร์ต

           พิธีสิ้นสุดลงในเวลา 12.30 โดยได้รับเกียรติจาก คุณพ่อวีรศักดิ์ วนาโรจน์สุวิช เป็นประธาน มีการแจกเกียรติบัตรแก่คณะครูและแจกรางวัลให้แก่บรรดาเด็กๆยุวธรรมทูตที่มาร่วมงาน

          ยุวธรรมทูตเป็นงานการฝึกอบรมเด็กๆที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปีลงมาให้มีจิตวิญญาณของการเป็นผู้เผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระเยซูเจ้า ส่งเสริมให้เด็กๆคาทอลิกของเราเป็นผู้ที่สามารถบอกเล่าเรื่องของพระเยซูให้เพื่อนๆฟังได้ โดยมีคติพจน์ว่า “เพื่อนช่วยเพื่อน พาเพื่อนมาพบพระเยซู” ดังนั้นไม่ว่าเด็กคนไหนจะเป็นใคร เรียนโรงเรียนอะไร สังกัดกลุ่มหรือหมู่คณะอะไร เด็กคนนั้นก็ต้องมีจิตวิญญาณของการเป็นยุวธรรมทูต ทั้งนี้เนื่องมาจากศีลล้างบาปและศีลกำลังที่พวกเขาได้รับนั้นเอง
     คุณครูสุดหทัย นิยมธรรม รายงาน

****ขอบคุณภาพข่าวจาก